ปปท. ตรวจสอบโครงการ CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ส่อแววทุจริต

ปปท. ตรวจสอบโครงการ CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่ส่อแววทุจริต

จากกรณีที่คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา เมื่อ ช่วงปลายเดือนมีนาคม63ที่ผ่านมา เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ส่อแววทุจริต ราคาเกินกว่าความเป็นจริงจากการประเมินราคากลางกล้องวงจรปิด CCTV เพียง 11 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV มีราคาถึง 25 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคากลางทั่วไปถึง 14ล้าน โดยประมาณ ซึ่งส่อให้เห็นอาจมีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ในครั้งนี้

วันที่ 10 เมษายน 2563 ประมาณเวลา 10.00 น. ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 ได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดจ้างกล้องงวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีผู้ร้องเรียน ว่าโครงการดังกล่าวมีราคาสูงกว่าราคากลางทั่วไป ถึง 14 ล้านบาท สำหรับเรื่องดังกล่าวทางทีมงานข่าวชัดประเด็นจริง ได้ติดตามเรื่องตั้งแต่ทราบว่ามีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดปทุมธานีถึงผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเพื่อให้มีการยับยั้งระงับการประมูลงานระบบ CCTV ดังกล่าวในวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เพราะทราบมาว่าจะมีการประมูลในวันที่ 25 มีนาคม 63 หากไม่ทำการระงับยับยังจะส่งผลเสียหายให้กับภาครัฐ ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคน


วันนี้ เจ้าหน้าที่ ปปท.เขต 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบระบบCCTVให้ข้อมูลเพื่อสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นกล่าวว่าเป็นความจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนหรือไม่ โดยมีนางสุดาทอง วิลัย รองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงปฎิบัติหน้าที่นายกเทศบาลเมืองคลองหลวงพร้อมด้วยท้องถิ่นอำเภอ และหัวหน้าส่วนโครงการที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เข้าชี้แจงและให้ข้อมูลกับ ปปท. ในการประชุมสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ทาง ปปท.เขตหนึ่งให้อำนาจนายกเป็นคนดำเนินการ แต่น้องสุดาทองวิลัย ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศบาลเมืองของหลวง กับไม่อนุญาติให้นายสุวิรัตน์ กิมสวัสดิ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ผู้ร้องเรียน นายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ ซึ่งเป็นสถาบันที่ตรวจสอบเอกสารประกาศประกวดราคาและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี และสื่อมวลชนเข้ารับฟังหรือสังเกตุการณ์ โดยอ้างว่าเป็นการกดดันการทำงานและผู้ร่วมประชุม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุใด นางสุดา ทองวิลัย ปฎิบัติหน้าที่นายกเทศบาลเมืองของหลวงถึงไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นเข้าสังเกตการณ์ รับฟังด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน หากว่าทางเทศบาลเมืองของหลวงไม่มีการทำงานที่ จะส่อไปแนวทางทุจริต ก็ควรให้คนกลางหรือผู้ร้องเรียนและสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังในการชี้แจงด้วย ทั้งยังเป็นการดีด้วยซ้ำไปหากได้ชี้แจงต่อผู้ร้องเรียนโดยตรง จะได้เกิดความกระจ่างชัดและข้อกังขาในการร้องเรียนนั้นกล่าว
เมื่อถูกสั่งห้ามให้เข้าร่วมการประชุมทางสื่อมวลชนและผู้ร้องเรียนจึงยืนรอที่หน้าห้องประชุม เพื่อรอสอบถามและสัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทำให้นางสุดาทอง วิลัยเกิดความไม่พอใจโดยอ้างว่าทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมเกิดแรงกดดัน จึงเรียกนิติกรเทศบาลเมืองของหลวง ให้มาควบคุมสถานการณ์เพื่อให้ทางนิติกรณ์ได้สั่งการให้เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมสถานการณ์และผลักดันเชิญตัวสื่อมวลชนและผู้ร้องเรียนพร้อมผู้ชี้แจงออกบริเวณหน้าห้องประชุม ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่นิติกรของเทศบาลเมืองคลองหลวงได้ออกมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร เหมือนกับการไล่ คือไม่อนุญาตให้ยืนหน้าห้องประชุม โดยอ้างว่าเป็นการกดดันผู้เข้าร่วมประชุม ทางเจ้าหน้าที่นิติกรแจ้งว่าถ้าไม่ไปจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจมาจัดการ จึงทำให้ผู้ร้องเรียนเกิดมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่นิติกรท่านนั้น หลังจากนั้นรักษาการนายกเทศบาลเมืองคลองหลวงจึงได้ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจมาเชิญตัวผู้ร้องเรียนและผู้สื่อข่าวเข้ามาอยู่ในห้องรับรองไม่ให้เข้าไปวุ่นวายและบันทึกภาพการประชุม การประชุมหารือหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจึงดำเนินต่อไป

สื่อมวลชนได้สอบถามถึงความผิดปกติ ของโครงการ CCTVดังกล่าวกับนายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ ซึ่งเป็นสถาบันที่ตรวจสอบเอกสารประกาศประกวดราคาและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี โครงการเลขที่ ๖๒๐๒๗๑๘๕๑๓๕ เอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ ๒๗/๒๕๖๓ นายเจษฎา นาคปนทอง กล่าวว่าเอกสารดังกล่าวที่ตรวจสอบมีความขัดแย้งกันในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น มีผู้ยื่นซองประกวดราคามากกว่า 10 รายขึ้นไป ทำไมมีผู้ยื่นประกวดราคาเพียง 2 รายเท่านั้นสเปคและราคาที่ทางผู้ร้องเรียนแจ้งว่าการประเมินการจัดซื้อราคาจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีราคากลางประมาณ 10 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV มีราคาถึง 25 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดทั่วไป 15 ล้านบาท รวมทั้งอุปกรณ์บางตัวมันต้องมากับระบบ แต่มีการเสนอซื้อซ้ำซ้อน ซึ่งเอกสารทั้งหมดที่แสดงถึงความผิดปกติหลายอย่างของโครงการ

ทางนายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ มีความประสงค์นำเอกสารดังกล่าวมาเพื่อชี้แจงและให้รายละเอียดข้อมูลต่างๆ กับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 รวมทั้งสอบถามรายละเอียดกับทางผู้เข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้อง แต่ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 แจ้งว่าเป็นการประชุมภายใน ไม่ให้เข้าไปร่วมประชุมด้วย และแจ้งว่าเป็นการประชุมยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ ส่วนการจะยื่นเอกสารรายละเอียดนั้นให้ไปยื่นได้ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา โดยตรง

จนเวลา 12.00 น. การประชุม เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองคลองหลวงที่เข้าประชุมทั้งหมดก็ได้ออกจากห้องประชุมอย่างรวดเร็วและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับทางสื่อมวลชน

หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทางสื่อมวลชนจะขอสัมภาษณ์ นางสุดา ทองวิลัย โดยขอให้ นายสุวิรัตน์ กิมสวัสดิ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง โทรศัพท์ถามถึงเรื่องราวในที่ประชุมว่าในการประชุมดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง แต่กลับถูกนางสุดาทอง วิลัย ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพียงอ้างว่าให้ไปสอบถามท้องถิ่นอำเภอเท่านั้น ซึ่งทางประธานสภาพูดด้วยความคับแค้นใจว่าตนเองเป็นประธานสภาประชาชนเลือกมาให้มาปฎิบัติหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเพื่อตรวจสอบและอนุมัติเงิน ตามที่เทศบาลเสนอมาแต่เมื่อจะตรวจสอบว่าเทศบาลนำเงินไปใช้อะไรบ้างนั้น กับตรวจสอบไม่ได้ หากทางผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ทำงานด้วยความโปร่งใสจริงทำไมจึงบอกตนไม่ได้จะปกปิดและบ่ายเบี่ยง หากเป็นเช่นนั้น ประธานสภาแจ้งกับนางสุดาว่าต้องไปเจอกันที่ในการประชุมสภาในเดือนหน้า
การติดตามการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวงที่ส่อแววทุจริตของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา ในครั้งนี้ จึงไม่สามารถแจ้งรายละเอียดอะไรได้เลย เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางผู้สื่อข่าวก็ต้องติดตามเรื่องผลการร้องเรียนนี้กันต่อไปว่าผลจะเป็นอย่างไร

ใส่ความเห็น